พระพรหมเอราวัณ

พระพรหมเอราวัณ เทพแห่งความศรัทธาของไทยและต่างชาติ

พระพรหมเอราวัณ เทพแห่งความศรัทธาของไทยและต่างชาติ ถ้าพูดถึง พระพรหมเอราวัณ น่าจะน้อยคนนักที่ไม่รู้จัก เพราะ พระพรหมเอราวัณก็เป็นอีกหนึ่งความศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนให้ความนับถือกันเป็นอันมาก อิทธิพลความเชื่อนี้ได้มาจากศาสนาฮินดูว่าเป็นพระผู้สร้าง มี 4 หน้า ที่เปรียบเหมือนทิศทั้ง 4 คือ ทิศเหนือ, ทิศใต้, ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ซึ่งสิ่งนี้จึงทำให้พระองค์มองเห็นปัญหาในทุกทิศ และสามารถได้ทั้งโลกมนุษย์กับสวรรค์ ไม่ว่าใครที่มีปัญหาติดขัดในชีวิต พระองค์จะช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรคที่กำลังเจอได้ นอกจากนี้ ก็ยังเชื่อกันว่าพระองค์จะประทานพรความสำเร็จมาให้ด้วย

พระพรหมเอราวัณ

เจาะลึกประวัติ พระพรหมเอราวัณ เทพแห่งความศรัทธาของไทยและต่างชาติ

ประวัติการก่อตั้งศาลพระพรหมเอราวัณ เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2494 ณ บริเวณแยกราชประสงค์ ซึ่งพลตำรวจเอก‪เผ่า ศรียานนท์ เป็นผู้สั่งการให้มีการก่อสร้าง‪โรงแรมขึ้น สำหรับรองรับแขกต่างประเทศ โดยในระหว่างการก่อสร้างมีเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง จนเมื่อปลายปี ‪พ.ศ. 2499 ที่โรงแรมใกล้จะทำสำเร็จ ผู้บริหารโรงแรม จึงติดต่อพลเรือตรี‪หลวงสุวิชานให้เข้าทางในเพื่อหาฤกษ์เปิดโรงแรม แต่พลเรือตรีหลวงสุวิชานแพทย์ บอกว่าทางโรงแรมไม่ได้บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แถมชื่อโรงแรมยังใช้ชื่อช้างทรงของ‪พระอินทร์ ทำให้ต้องทำการบวงสรวงก่อน และจะต้องสร้าง ศาลพระพรหมเอราวัณ ขึ้นทันที เพื่อให้ช่วยขจัดอุปสรรคต่าง ๆ รวมถึงต้องสร้างศาลพระภูมิด้วย ภายหลังที่โรงแรมดำเนินการเรียบร้อยแล้วนาย‪ระวี ชมเสรี และม.ล.‪ปุ่ม มาลากุล ได้มีการออกแบบศาล พร้อมกับนาย‪จิตร พิมพ์โกวิท ผู้เป็นช่างกองหัตถศิลป์ ของกรมศิลปากรที่ได้ปั้นพระพรหมเอราวัณ ด้วย‪ปูนปลาสเตอร์ปิดทอง และทำการอัญเชิญพระพรหมเอราวัณ มาประดิษฐานในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 และในวันนี้ของทุกปีโรงแรมเอราวัณจะทำพิธีบวงสรวงมาอย่างต่อเนื่อง

พระพรหมเอราวัณ

วิธีบูชา พระพรหมเอราวัณ

การบูชา พระพรหมเอราวัณถ้าอยากจะได้พรให้ครบทุกเรื่อง ก็จะต้องทำให้ครบทั้ง 4 ด้าน หากใครต้องการเรื่องแบบเฉพาะ เจาะจงจะเลือกเพียงด้านเดียวก็ได้ ส่วนการเตรียมของจะต้องเตรียมให้ครบ 4 ธาตุ คือ

  • ดอกบัว (ธาตุดิน)        – น้ำสะอาด (ธาตุน้ำ)                – ธูป (ธาตุลม)              – เทียน (ธาตุไฟ)

เมื่อเตรียมของครบแล้วต้องเริ่มจากด้านแรก แล้วเวียนไปทางขวามือของเราจนครบ โดยแต่ละด้านก็จะได้รับพร แล้วก็จำนวนเครื่องสักการะที่ต่างกันไป ได้แก่

  • ด้านแรก ใช้ธูปจำนวน 16 ดอก, เทียน 9 เล่ม, ดอกบัว 9 ดอก และน้ำ 1 ขวด ในด้านนี้จะประทานพรในเรื่องของการงาน, การเรียน, เรื่องเกี่ยวกับพ่อ และความก้าวหน้าในชีวิต
  • ด้านที่สอง ใช้ธูปจำนวน 36 ดอก, เทียน 9 เล่ม, ดอกบัว 9 ดอก และน้ำ 1 ขวด ในด้านนี้จะประทานพรในเรื่องของอสังหาริมทรัพย์, เรื่องเงินทอง, และหนี้สิน
  • ด้านที่สาม ใช้ธูปจำนวน 39 ดอก, เทียน 9 เล่ม, ดอกบัว 9 ดอก และน้ำ 1 ขวด ในด้านนี้จะประทานพรในเรื่องสุขภาพ, คู่ชีวิต, ครอบครัว, เรื่องเกี่ยวกับแม่, คู่สัญญา, หุ้นส่วน และความมั่นคง
  • ด้านที่สี่ ใช้ธูปจำนวน 19 ดอก, เทียน 9 เล่ม, ดอกบัว 9 ดอก และน้ำ 1 ขวด ในด้านนี้จะประทานพรในเรื่องโชคลาภ, สิ่งที่ได้มาโดยบังเอิญ, การขอกู้ยืมเงิน และเรื่องลูก
พระพรหมเอราวัณ

สถานที่ตั้งพระพรหมเอราวัณ

สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาแรงกล้า แนะนำให้ไปสักการะ พระพรหมเอราวัณ ที่นับว่าเป็นศาลที่ใหญ่ที่สุด ในโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ แถวสี่แยกราชประสงค์ได้ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใด ๆ และสามารถเข้าไปสักการะได้ทุกวัน แล้วบอกได้เลยว่าสถานที่นี้เป็น Landmark ที่สำคัญของ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาก ๆ ไม่ว่าทัวร์นั้นจะมาจากไหนก็จะต้องแวะที่จุดนี้เสมอ

และทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อ และความศรัทธาที่มีต่อ พระพรหมเอราวัณทั้งของคนไทย และคนต่างชาติ ทั้งนี้การไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามันมากเกินไป จนเข้าขั้นงมงาย ก็อาจไม่ส่งผลดีเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นการศรัทธาอะไรบางอย่างแบบพอดี ๆ บวกกับการใช้ความพยายาม ของตัวเองเป็นที่ตั้ง น่าจะเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจที่สุดเท่าที่เราจะทำได้

Scroll to Top